Title: Life in Different Sound
Fandom: Katekyo Hitman Reborn ! (c) Amano Akira
Paring: 1859 (Hibari * Gokudera)
Rating: PG13
Author: Devilz79
-------- T r a c k 3 : u n t i t l e d ------------------------------------------
เขาว่ากันว่า...คนบ้ามักจะไม่เป็นหวัด
โกคุเดระ
ฮายาโตะในชุดนักเรียนที่ไม่ค่อยเรียบร้อยนักกำลังเงยหน้ายืนมองอพาร์ทเมนต์ที่ตนเองอยู่ด้วยใบหน้ายู่ยี่และยับย่นจนคนที่เดินผ่านไปมาไม่กล้ามองด้วยความกลัวว่าจะต้องมีเรื่องชกต่อยในเวลาแบบนี้
ในเวลา...ที่ต้องเร่งฝีเท้าเพื่อให้ทันโรงเรียนเข้า
ร่างเล็กจ้องมองระเบียงทางเดินอยู่อีกประมาณห้านาทีแล้วพ่นลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย
สองเท้าเล็กก้าวเดินกลับไปกลับมาอย่างน่าปวดหัว
โทรศัพท์มือถือถูกควักออกมาเป็นรอบที่ร้อยเพื่อดูเวลาที่มันสามารถสรุปได้เป็นคำว่า
‘สายแล้ว’
แต่กระนั้นโกคุเดระ
ก็ไม่มีท่าทีว่าจะเดือดร้อนมากไปกว่าการที่ชะเง้อคอมองดูความว่างเปล่าของระเบียง
ร่างเล็กที่พ่นลมหายใจออกมาอีกรอบต้องสะดุ้งเมื่อโทรศัพท์ในมือสั่นและแผดเสียงฟ้องว่ากำลังมีคนโทร.เข้ามา
นิ้วบางดันฝาโทรศัพท์ก่อนจะเบะปากเมื่อเห็นชื่อคนที่โทร.เข้า ก่อนจะกดรับแต่โดยดี
“โกคุเดระ นายอยู่ไหนเนี่ย ทำไมยังไม่มาโรงเรียน?”
เสียงกระวนกระวายของคนจุ้นจ้านในความคิดของโกคุเดระแทรกเข้ามาเมื่อเขาเอาโทรศัพท์แนบหู
“เออ เดี๋ยวไปนี่แหละ” คนผมเงินรีบแทรกคำพูดก่อนที่เขาจะโดนบ่นอะไรออกมายืดยาว
แล้วกดตัดสายทิ้งไปอย่างเร่งรีบ ยัดโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง
เงยหน้ามองระเบียงอพารท์เม้นต์ชั้นที่ตนเองพัก แล้วถอนหายใจสั้นๆ ออกมาครั้งหนึ่ง
ค่อยตัดใจละสายตาแล้วหันเท้าวิ่งไปในทิศของโรงเรียน
...บางทีเขาอาจจะยังช้าเกินไป
---------------------
ร่างเล็กหยุดยืนหน้าประตูโรงเรียนด้วยสภาพเหงื่อท่วมตัว
ใบหน้าเรียวนิ่วลงเมื่อพบว่าเขารีบมาเพื่อจะพบว่าประตูหน้านั้นกำลังมีการวุ่นวายจากเจ้าพวกคณะกรรมการอะไรบ้าบอทั้งหลาย
ดวงตากลมกวาดมองไปทั่วๆ ราวกับจะหาใครสักคน
และคิ้วเรียวต้องขมวดนิ่วเข้าไปอีกเมื่อพบว่า...เขาไม่พบ
‘ใครสักคน’ ร่างเล็กหยิบโทรศัพท์ที่มันดังขึ้นเป็นรอบที่ล้านแปดขึ้นมาดูแล้วกดตัดสายไปเมื่อเป็นชื่อของยามาโมโตะที่โทร.เข้ายิก
สองเท้าในรองเท้าผ้าใบเดินผ่านประตูไปอย่างไม่หยี่ระต่อคนชุดดำที่กำลังหันมามองเขาด้วยความสนใจ
...มาสาย !
คนตัวใหญ่ที่ทำทรงผมแปลก
ในปากคาบก้านอะไรสักอย่างเดินเข้ามาหาเขาด้วยใบหน้าจริงจัง
เรียกให้โกคุเดระกลอกตาด้วยความรำคาญ ให้ตายเถอะ....เขาไม่ได้อยากจะเจอเจ้าพวกนี้
ที่เขาอยากเจอน่ะ....
หือ !?
ร่างเพรียวชะงักความคิดของตัวเอง
เมื่อโดนเสียงใหญ่เข้มพูดอะไรสักอย่างที่มันไม่เข้าหู...อื้มมม ไม่ค่อยเข้าหูจริงๆ
ด้วยแหละ ก่อนจะรู้ตัวหมัดแข็งก็ลอยไปประทับบนใบหน้าของคณะกรรมการชุดดำเสียแล้ว
โกคุเดระมองมือตัวเองแล้วฉีกยิ้มขึ้นมาน้อยๆ
โชคดีนะ...ที่วันนี้ได้วิ่งวอร์มมาก่อน
ไม่งั้นคงลำบาก
---------------------
“เฮ้ยยย ! โกคุเดระ ทำไมนายเละเทะแบบนี้เนี่ย!”
เสียงโวยวายเสียงดังออกจากปากของเด็กหนุ่มนักกีฬา
เมื่อเห็นสภาพเพื่อนของตัวเองมอมแมมราวกับลูกหมาไปเล่นคลุกฝุ่นมา
เพียงแต่บนใบหน้าขาวๆ มีรอยช้ำ รอยถลอก และคราบเลือดเล็กๆ น้อยๆ แต่มันก็ไม่ใช่ชีวิตปกติอยู่ดีนั่นแหละ
คนโดนทักตีหน้ารำคาญก่อนจะปัดมือที่จะเข้ามาจับออกอย่างไม่แยแส
แล้วเดินไปนั่งบนเก้าอี้ของตัวเอง ท่ามกลางสายตาสนอกสนใจของทุกคนในห้อง
เพียงแต่แต่ละคนต่างไม่กล้าเข้ามาไถ่ถามเพราะเกรงว่าจะโดนลูกหลงอารมณ์ของอีกฝ่ายน่ะเอง
“เรื่องของฉันน่า”
“นายไปตีกับใครมา?” ยามาโมโตะตามมาถามถึงที่โต๊ะ
กรอบหน้าคมสันนิ่วเหมือนกำลังคิด แล้วก็เอียงคอไปมา “จะบอกว่ากรรมการ...แต่ว่าวันนี้ฮิบาริก็ไม่มานี่หน่า
หรือนายทะเลาะกับคุซาคาเบะเอาน่ะ ? หรือมีเรื่องกับเด็กโรงเรียนอื่นเหรอ?”
คาดเดาเหตุผลนานา
แต่หากทั้งประโยคนั้นจะเรียกให้โกคุเดระเงยหน้าขึ้นมามอง
“เมื่อกี๊นายบอกอะไรนะ?”
“หะ? บอกอะไร” คนโดนถามทวนคำถามหน้าเหวอ เขาบอกอะไร เขามีแต่ถาม
แถมยังเป็นคำถามที่ไอ้ตัวข้างหน้าไม่ยอมตอบเขาด้วยนะ
และเป็นที่แน่นอนด้วยว่า
ทั้งวัน...ยามาโมโตะไม่ได้คำตอบอะไรอีกเลย
ฮิบาริไม่มา...
นับเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าแปลกประหลาดใจ
โกคุเดระ
ฮายาโตะคิดแบบนั้น...เมื่อดูจากสภาพนักเรียนในโรงเรียนเขาที่ทำอะไรในสิ่งที่ไม่เคยทำ
เช่น วิ่งแหกปากตะโกนอยู่ที่ริมระเบียง หรือทำอะไรห่วยๆ อย่างเช่น...
“เฮ้ย...คิดว่าเท่หรือไง”
เด็กหนุ่มหัวโล้นหน้าตาคล้ายพวกเด็กแว๊นซ์ปากซอยผลักไหล่เล็กของคนผมเงินที่เดินมาเงียบๆ
ส่งเสียงเอะอะหาเรื่องโดยมีพวกลูกกระจ๊อกหัวเราะร่าตามมาข้างหลัง
สภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ยไม่ได้ต่างกับตัวเขามากเท่าไรหรอก
แต่เขาแน่ใจว่าการมีเรื่องทุกครั้งเขาไม่เคยเข้าไปหามันก่อน
เป็นครั้งที่สองที่โกคุเดระ
ฮายาโตะนึกได้ว่ากรรมการรักษาระเบียบที่นี่ชื่อฮิบาริ เคียวยะ
ถ้าเจ้านี่อยู่ก็น่าจะดี....ละมั๊ง
“เฮ้ยย มันเงียบว่ะ”
พี่โล้นซ่าหันไปบอกกับลูกน้องแล้วระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
ซึ่งเจ้าของดวงตาสีเขียวที่กำลังมองอย่างเบื่อหน่ายนั้นไม่เห็นว่ารอบตัวเขาจะมีอะไรน่าหัวเราะตรงไหน
มีแค่...ความกากของไอ้คนตรงหน้าเสียมากกว่า
และก่อนที่เสียงหัวเราะนั้นจะได้หยุดลงอย่างเป็นทางการ
เป็นครั้งที่สองของวันที่ร่างเล็กรู้สึกตัวว่ามือของเขาอัดเข้าไปเต็มหน้าอีกฝ่าย
อืม...รู้สึกว่าจะหนักกว่าตอนที่ลงบนหน้าเจ้าพวกกรรมการชุดดำอะไรนั่นอีกนะ
“อ๊ากกกกกกกกกกกก แกมัน...” หมันลุ่นๆ ตรงมายังใบหน้าที่เป็นฟกช้ำอยู่แล้ว
แต่สำหรับคนที่เพิ่งจะผ่านการต่อยตีมาหมาดๆ ไม่ทำให้โกคุเดระโดนหมัดนั้นง่ายๆ
เขาได้แค่คิดในใจ
ถ้าฮิบาริอยู่...ก็น่าจะดี
เขาคิด
---------------------
ยามาโมโตะถอนหายใจเป็นเฮือกที่สองหมื่น
นอกจากจะต้องมาเห็นหน้าเพื่อนที่เป็นรอยช้ำเพิ่ม หน้าเขายังโดนมาบ้างแน่ะ
ถ้าไม่ใช่ว่าเหตุการณ์ตะลุมบอนที่เรียกให้นักเรียนหลายคนไปมุงดูด้วยความสนใจ
เขาเองก็สนใจ...และแปลกใจว่าวันนี้พวกกรรมการรักษาระเบียบหายไปไหนหมด
อ่อ ไม่หมดหรอก
แต่มีแค่คุซาคาเบะกับลูกน้องไม่กี่คนที่เขาพอจะเห็น
และเมื่อชะโงกหน้าไปดูเห็นผมเงินๆ
ที่คุ้นตานั้นกำลังสะบัดพร้อมกับมือที่กำแน่น
โดยมีนิ้วกลางที่ยืดขึ้นมาพร้อมจะกระแทกใบหน้าของคนที่อยู่ใต้ร่างตัวเองให้หงายหมอบ
โดยไม่ทันระวังว่าข้างหลังมีอีกสองคนที่โงนเงนขึ้นมาจากอาการเมาเลือดจะประทุษร้ายจากด้านหลัง
ยามาโมโตะเลยต้องโดดเข้าไปขวางพร้อมกับรับหมัดไม่หนักมากมาเสียแทน
โคตรพระเอก...
(แต่ไม่ใช่เรื่องนี้หรอกนะ)
“วันนี้มันวันอะไรเนี่ย...” เสียงบ่นดังขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ไม่ใช่ทั้งเสียงของโกคุเดระและยามาโมโตะ
แต่เป็นเสียงของหมอแก่เจ้าของห้องพยาบาลประจำโรงเรียน
ที่เกาหัวแกรกเพราะเขาเริ่มขี้เกียจจะนับแล้วว่าวันนี้เขาทำแผลให้กับพวกนักเรียนกี่คนกัน
ไหนจะจากการชกต่อย ไหนจะจากการตกระเบียงเพราะเล่นซน
“ปกติไม่เคยมีอะไรแบบนี้นี่หว่า แกรู้มั้ยฮะ
ฮายาโตะ” เอ่ยปากถามคนที่นั่งทำหน้าเซ็ง
แล้วกดสำลีชุบยาลงบนมุมปากที่แตกเพราะโดนกระแทก
พาให้คนโดนทายาสะดุ้งแล้วถีบตัวออกจากเจ้าหมอโรคจิตแต่โดยเร็ว
“ไม่รู้เฟ่ยยยย เอามานี่ ฉันทำเองได้น่า”
คว้าสำลีพันก้านจากมือคนในชุดกาวน์ที่หัวเราะฮ่าๆ อย่างสบายอารมณ์
แล้วกดเข้ากับแผลตัวเองอย่างลวกๆ ทำไงได้ ก็มันแสบนี่หว่า
ยามาโมโตะชิ่งหยิบชุดทำแผลขึ้นมาทำเองก่อนที่จะโดนชามาลทำให้อย่างที่โกคุเดระและคนอื่นๆ
โดน คนอื่นๆ ที่หมายความเฉพาะแค่เด็กนักเรียนผู้ชายนะ ส่วนผู้หญิง...ไม่นับ
เขาเพิ่งรู้ว่าคณะกรรมการรักษาระเบียบจะมีผลต่อความสงบสุขของโรงเรียนเขาขนาดนี้...
ว่าไป ฮิบาริ เคียวยะ หายไปไหนนะ ?
ดวงตาสีทรายเหลือบมองคนที่จิ้มๆ
แผลตัวเองด้วยแววตาตั้งคำถาม แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป โกคุเดระจะรู้อะไรมั้ยน้า
วันนั้นเห็นแว้บๆ อยู่ว่าเหมือนฮิบาริจะเป็นคนอยู่ข้างๆ ห้อง
แถมเกิดอะไรฉุกละหุกก็ไม่รู้ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับทั้งสองคนอย่างน่างงๆ
---------------------
โกคุเดระสับเท้าด้วยความไม่พอใจอะไรสักอย่างบนโลกมนุษย์
ก้าวฉับๆ ผ่านเข้าไปในห้องตัวเองอย่างรวดเร็ว
มีเพียงชั่ววินาทีก่อนเข้าห้องนั้นสายตาพลันไปหยุดหน้าบานประตูข้างๆ
ที่เขาไม่เคยรับรู้มาก่อนว่านั่นเป็นห้องของใคร
หนึ่งความคิดทีแทรกเข้ามาในหัวคือการไปเคาะประตูห้องนั้น
เขาคิดแบบนั้นมาสองวันแล้ว
นับตั้งแต่ที่เขาไม่ได้เห็นหน้านิ่งนั้นอีก
หากแต่...
ใบหน้ายู่ยี่ถอนหายใจออกมาแล้วดึงตัวเองให้กลับไปไขประตูห้องแล้วโยนสัมภาระลงบนโซฟาตัวเดียวเพียงในห้อง
มือเล็กคลำใบหน้าที่มีแต่รอยแผลแล้วต้องร้องอูยออกมา มันเจ็บน้อยซะที่ไหนกันล่ะ
ถึงจะน้อยกว่าพวกที่ต่อยตีกว่าเขา แต่แค่คิดว่าอากาศเย็นๆ
ของฝนตกจะทำให้แผลตึงแล้วละก็...
ใจก็อดจะประหวัดไปถึงเจ้าของห้องหัวดำข้างๆ
ไม่ได้
เรื่องทุกอย่างมันนั่นแหละที่ผิดแต่เพียงผู้เดียว...
เฮอะ...
ดวงตาสีเขียวเหลือบมองไปยังผนังห้องที่ถูกใช้ร่วมกัน
เพียงแต่คนละฝั่ง เขาแค่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีกฝ่าย
ถึงทำให้ไม่ไปโรงเรียนสองวัน ตั้งสองวัน....เขาแค่อยากรู้เท่านั้น
ไม่ได้เป็นห่วงนะเฟ่ยย
ลำตัวเล็กยืดลุกออกจากโซฟาแล้วเดินไปยังระเบียงที่นานๆ
ครั้งจะเดินออกไป เป็นระเบียงที่ยามาโมโตะเปิดไปแล้วเจอกับฮิบาริอย่างไม่คาดฝัน
(แน่นอน...ว่าเขาเองก็ไม่ได้คาดฝัน)
มือเล็กรูดผ้าม่านแล้วชะโงกหน้าออกไปมองด้านข้าง
ทว่า...ก็มีแต่ความว่างเปล่าเท่านั้น
ไม่ถึงกับผิดหวัง
แต่ก็แค่คิดเท่านั้น...ว่าจะได้เจอหน้าอีกคน
โกคุเดระแค่นหัวเราะให้ตัวเอง
แล้วเขาจะอยากเจอฮิบาริไปทำไมกัน ไม่มีเหตุผลอะไรที่ดีในการจะเจอกัน
การที่ปล่อยให้มันเป็นเหมือนปกติก็ดีแล้ว
เหมือนตั้งแต่แรกที่เขาไม่รู้จักคนข้างห้องด้วยซ้ำ
แบบนั้นน่ะ...ดีแล้ว
.
.
.
.
.
.
เหรอ ?
สองเท้าเล็กพาตัวเองเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
เมื่ออยู่ๆ ฮอร์โมนในร่างกายเริ่มชนะสมองที่กำลังตรองความคิดและเหตุผลและหลายๆ
อย่าง
มือเล็กเอี้ยวบิดลูกบิดแล้วหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องที่มีเลขใกล้เคียงกับห้องของเขา
โกคุเดระกำลังคิดว่าเขาถูกผีสิง...หรืออะไรทำนองนั้น
เพราะมือของเขากำลังเอื้อมไปเคาะป๊อกๆ
ที่บานประตูอันต้องห้าม (สำหรับเขา) ไปเสียแล้ว โกคุเดระแทบจะต่อยมือตัวเองทิ้ง
หากไม่ติดว่าเป็นมือของเขาเองละน่ะ สิ่งที่รอมีเพียงความเงียบเท่านั้น
เขาไม่ใช่พวกที่จะเคาะประตูแล้ววิ่งหนีเป็นพวกเด็กๆ เสียหน่อย
แม้จะแอบหงุดหงิดตัวเองอย่างบอกไม่ถูก
แต่...ความรู้สึกลึกๆ
กลับกำลังรู้สึกไม่แย่ในสิ่งที่ตนเองทำไป
ปลายนิ้วเล็กๆ
เย็นเฉียบไปด้วยความตื่นเต้นที่พาให้หัวใจของเขาเต้นรัวจนน่าตกใจ
ก็แค่...อยากรู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่ตายเท่านั้น ก็แค่...เท่านั้นเอง ปั๊ดโธ่ !
เชื่อกันสิ...เขาไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่นเสียหน่อย ห่วงเหิ่งน่ะ ไม่มีหรอก
เสียงเปิดประตูเบาๆ เรียกให้คนที่ก้มหน้าทะเลาะกับปลายรองเท้าตัวเองอยู่ผงะตัวแล้วเงยหน้าขึ้นมามอง
เสี้ยวหน้าสีขาวของคนผมดำที่อยู่ในห้องมืดเรียกให้โกคุเดระ
ฮายาโตะที่มีความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นแอบผวาและคิดไปไกล
ก่อนที่ร่างนั้นจะยืนออกมาเต็มๆ ให้สติของผู้มาเยือนได้กลับมาอย่างสมบูรณ์อีกครั้ง
“อะไร?” คำถามจากเสียงแผ่ว
เรียกให้คนตัวขาวต้องเขยิบเข้าไปใกล้ แต่ความใกล้แม้แต่แค่นิดเดียว
ก็ทำให้โกคุเดระมีโอกาสได้สำรวจใบหน้าของผู้คุมกฎของโรงเรียนที่ดูแปลกตาไป
ริมฝีปากนั้นดูซีดเซียว รวมไปถึงใบหน้าด้วย ยิ่งมีเรือนผมสีดำคอยขับความขาว ก็ยิ่งเห็นชัดว่าหน้านั้นซีดราวกับ...คนมีไข้
มีไข้ ?
“ป..เปล่า” ปฏิเสธเสียงแข็งเอาไว้ก่อน
ทั้งที่ดวงตายังจ้องอยู่บนใบหน้ากรอบคมนั้นไม่ห่าง
ฮิบาริถอนหายใจแล้วขมวดคิ้วนิ่ง
มือแกร่งจับขอบประตูเพื่อพยุงตัวเองเอาไว้ไม่ให้ล้มและไม่ให้อีกฝ่ายได้สังเกตว่าเขาจะล้ม
ให้พวกปวกเปียกนี่มาเห็น...ไม่มีทาง
“ก็ดี งั้นก็กลับห้องนายไปซ...”
“นายไม่สบาย!”
ก่อนที่ฮิบาริจะได้พูดจบ
เสียงใสก็แทรกขึ้นมาพาให้คน ‘ไม่สบาย’ หน้าหงิกแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างปวดหัว
“กลับห้องไป” กดเสียงเข้มเพื่อไล่อีกฝ่ายที่ทำหน้าจับผิดเขา
คนผมเงินทำหน้ายับเมื่อโดนเอ่ยไล่แบบไม่ไว้หน้า
เหอะ ที่แท้ก็ไม่สบายนี่เอง...มิน่าเล่า ถึงไปโรงเรียนไม่ได้
เนตรกลมจ้องร่างสูงกว่าแล้วยกยิ้มคล้ายจะเยาะขึ้นมา
ซึ่งไม่ได้สร้างความพอใจให้แก่ฮิบาริได้เลย
เพียงแต่ว่า...ดวงตาเรียวหรี่มองใบหน้าขาวตรงหน้าแล้วต้องย่นคิ้ว
ไปตีกับใครมา ? หน้าถึงได้มีแต่แผล...
สงสัยแต่ไม่ได้เอ่ยถามออกไป
และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจะยังไม่ก้าวเท้าออกไปจากหน้าห้องเขา
ก็เป็นร่างสูงเองที่ดึงเท้ากลับไปแล้วปิดประตูใส่อีกฝ่ายอย่างไม่สนใจว่าจะรู้สึกอย่างไร...หึ
คนแบบนั้น ดื้อแบบนั้น รู้สึกได้ก็คงจะหายเร็วนั่นแหละ
ร่างโปร่งที่ใบหน้ามีหยดเหงื่อไหลลงมาเอามือข้างหนึ่งยันไว้กับกำแพง
หงุดหงิดตัวเองเล็กน้อยที่โดนฝนแล้วไม่สบาย
หงุดหงิดกับอีกคนมากกว่า...
โดนฝนเท่ากันแต่ยังดูสบายดี
แม้จะน่าเป็นห่วงกับรอยแผลและรอยถลอกบนใบหน้าก็เถอะ
หือ.. ห่วง...งั้นเหรอ ?
เหอะ
กลายมาเป็นว่าโกคุเดระต้องนั่งเถียงกับตัวเองว่าการไม่สบายของฮิบารินั้นมีสาเหตุจากวันที่ทะลึ่งเดินไปตากฝนโดยไม่เอาร่มไป
แม้จะไม่ใช่ความผิดของตัวเอง
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเขาก็มีส่วนร่วมในความผิด...ที่เขาไม่ได้ก่อเนี่ยนะ !?
ร่างบางผมสีเงินเถียงกับตัวเองเป็นครั้งที่แปดหมื่น
และสุดท้ายก็ตัดสินใจอะไรบางอย่างออกมา
เขาคิดว่ามันคือการตัดสินใจที่ไม่ได้แย่อะไร...เขาคิด
---------------------
วันที่อากาศครึ้ม...
มือเล็กหิ้วถุงใส่อะไรบางอย่าง
รีบวิ่งขึ้นบันไดจนเสียงดังตึงตัง
ก่อนจะถลันตัวเข้าห้องพักของตนเองด้วยความเร่งรีบ
ตาเหลือบมองนาฬิกาดิจิตอลที่ตั้งอยู่ข้างหัวเตียงที่บอกเวลาเกือบเที่ยง
เมื่อเหลือบมองด้านนอกก็มีแต่เค้าเมฆที่ตั้งท่าจะฝนตกมาแต่ไกล
เด็กหนุ่มหยิบจานชามของตนเองออกมาแล้ววางมันลงบนถาด...ของใครก็ไม่รู้
แต่ไม่น่าจะใช่ของเขาออกมา
แกะอาหารสำเร็จรูปเทใส่จานพวกนั้นแล้ววางช้อนส้อมลงไปข้างๆ
และวางซองสีขาวลงไปในส่วนที่ว่างพอจะวางได้
อาหารและยา อ.ย.น่ะเอง ~ (ไม่ใช่และ)
จมูกโด่งสูดกลิ่นหอมของอาหารร้อนๆ
ที่เขาเพิ่งจะเดินไปซื้อมาจากร้านที่อยู่ไม่ไกลแถวนี้นัก
เขาค่อนข้างมั่นใจว่ารสชาติมันไม่แย่สำหรับคนป่วย
แต่เห็นมีคนบอกว่าคนป่วยกินอะไรก็ไม่อร่อย ช่างมันเถอะ
เน้นปริมาณและสารอาหารก็น่าจะเพียงพอแล้ว
โกคุเดระยกถาดอาหารแล้วเดินออกไปตรงหน้าห้องที่เมื่อวานเขาเดินมาเคาะด้วยความ...ด้วยความอะไรสักอย่างนั่นแหละ
ถาดในมือถูกวางลงอยู่หน้าประตูห้อง
แม้จะเป็นการวางตรงพื้นก็เถอะ โกคุเดระหวังว่าอีกฝ่ายน่าจะไม่ถือนะ
มือเล็กเอื้อมไปเคาะสองสามครั้งก่อนจะรีบหันหลังกลับไปยังห้องของตัวเองอย่างรวดเร็ว
เขา...เขาไม่ใช่เด็กที่เคาะห้องแล้วหนีหรอกนะ
แต่แค่...เออน่า ช่างมันเถอะ
สองเท้ารีบก้าวเข้าห้องตัวเอง
โดยไม่หันกลับมามองข้างหลังที่คนผมดำเปิดประตูออกมามอง
แล้วเห็นแผ่นหลังเล็กกำลังหายไปในประตูอีกบาน ร่างโปร่งถอนหายใจแล้วนิ่วหน้า
อะไรของเจ้านั่นกัน เล่นเป็นเด็กไปได้...สองเท้าตั้งใจจะก้าวออกไปยืนหน้าห้อง
ทว่ากลับสัมผัสถึงสิ่งแข็งๆ ที่อยู่ข้างล่าง
ถาดข้าว ?
เนตรสีนิลมองด้วยสายตาที่มีคำถาม...และจับทุกอย่างมาผูกกันอย่างรวดเร็ว
เรียกให้ใบหน้ากรอบคมนั้นแย้มยิ้มออกมาเล็กน้อย มือหนายกขึ้นเกาจมูกตัวเอง แล้วค่อยก้มลงไปยกถาดอาหารนั้นขึ้นมา
กลิ่นอาหารที่บอกว่ายังร้อนเรียกให้น้ำย่อยของเขาทำงาน
โกคุเดระแง้มประตูออกมาดู
ถาดข้าวของเขาหายไปแล้ว
รอยยิ้มขึ้นมาอยู่บนแก้มที่ยังมีรอยแผลอยู่...
...ไม่ได้ดีใจอะไรซะหน่อยน่า...
El Fin
คนผมเงินในชุดนักเรียนบิดขี้เกียจสองสามทีก่อนจะเปิดประตูออกมาจากห้อง
ดวงตาสีเขียวใสต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
ฮิบาริ
เคียวยะในชุดนักเรียนสีดำพร้อมด้วยปลอกแขนสีแดงขลิบทองมีตัวอักษรจีนเขียนอยู่
กำลังยืนกอดอกพิงขอบระเบียงอยู่ในมือข้างหนึ่งมียาหลอดเล็ก
ที่เมื่อเจ้านั่นเห็นแล้วก็โยนให้เขาในทันที
โกคุเดระรับแล้วพลิกอ่าน
ก่อนเสียงหัวเราะในลำคอจะดังขึ้นมาเบาๆ
“ขอบใจ”
สองร่างเดินลงบันได...ในจังหวะเดียวกัน
No comments:
Post a Comment